สิ่งหนึ่ง และสิ่งสำคัญมากๆสำหรับผู้โฆษณาทางเว็บก็คือ
ผู้ใช้จะสนใจโฆษณาของเขามากๆ
ผู้ใช้จะคลิกเข้ามาดูเยอะๆ
เพราะนั่นมักจะหมายถึงตัวเลขของยอดที่ทำสำเร็จ
นั่นคือก้อนเงินที่จะได้
ความภาคภูมิใจว่า เราเป็นนักโฆษณาที่เก่งกาจ

ผู้โฆษณาหลายๆคนมักจะมองโลกในแง่ดี
คิดถึงงานใน happy path
คือ ผู้ใช้เข้าเว็บด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเข้าเว็บแล้วเห็นโฆษณา ก็เต็มใจและสนใจที่จะรู้จะเห็นมัน
ฉะนั้น หน้าที่ของผู้โฆษณาก็คือ ทำอย่างไรก็ได้ ให้คนเห็นได้มากที่สุด

ซึ่งเหตุผลนี้ มันนำมาพาซึ่งโฆษณาที่เรียกร้องความสนใจ(มากๆ)
และโฆษณาที่พยายามทำให้เราเห็นว่ามันมีอยู่

Floating Ad เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ผู้ที่ต้องการโฆษณาสนใจเป็นอย่างมาก
และนักโฆษณาก็บอกไว้ซะดิบดีว่า มันจะทำให้คนเห็นโฆษณาของคุณมากขึ้น
มันคือโฆษณาที่ลอยไปลอยมาในหน้าเว็บ บังเนื้อหาส่วนอื่นๆของหน้านั้น
เพราะต้องการให้ผู้ใช้มองเห็นมันจริงๆ ไม่ถูกละเลยไปตามที่รู้ๆกันว่าคนจะมองข้ามโฆษณาโดยอัตโนมัติ
บางทีผู้ใช้ก็ต้องรอให้มันปิดตัวไปเอง บางครั้งผู้ใช้ก็ต้องกดปิดมันลงไป

 

คนเราอาจจะมีเงินเพิ่มขึ้นหรือลดลง
มีทางเลือกในการใช้สินค้าและบริการมากขึ้นหรือลดลงก็ได้
แต่สิ่งที่มีจำกัด และเพิ่มไม่ได้
ไม่ว่าคนนั้นจะมีเงินล้นฟ้าขนาดไหน
นั่นก็คือ “เวลา”

Floating Ad เป็น Ad อย่างหนึ่งที่ทำความรำคาญให้กับผู้ใช้ที่ไม่ได้สนใจในสินค้าหรือบริการนั้น
เพราะเขาถูก”บังคับ” ให้เสียเวลาดูในสิ่งที่ไม่ต้องการ
และต้องเสียเวลา ที่จะต้อง”ปิด” มันด้วย
ไม่งั้นมันก็จะลอยทิ่มตา บังเนื้อหาหรืองานที่ต้องทำอยู่ในขณะนั้น

 

และตั้งแต่เจอ Floating Ad มา
99% ชอบทำปุ่มปิดให้มันมองเห็นยากๆ
ผู้ใช้จะได้คลิกผิดคลิกถูก
ถ้าคลิกผิด มันก็แปลว่า โฆษณานั้นได้ CTR (Click-Through Rate) เพิ่มอีก

เราเป็นคนหนึ่งที่คลิกปิด ad ประเภทนี้ผิดบ่อยๆ
และแต่ละครั้ง ก็ทำให้อยากจะกรี๊ด
เพราะว่ามันต้องเสียเวลาโหลดหน้าเว็บที่มันลิ้งไปอีก

 

 

ยกตัวอย่าง Ad อันหนึ่งทีเพิ่งไปเจอมา (และคลิกผิดมาแล้ว)
ลอยอยู่ที่ด้านขวาของหน้าเว็บ
ไม่ว่าจะ scroll ลงมาข้างล่างไกลเท่าไร มันก็ลอยลงตามมาด้วย
และด้วยความที่มันบังเนื้อหาด้านขวา
ก็เลยพยายามปิดมัน และแน่นอน…ปิดผิดอัน
ก็ปุ่มปิดจริงมันเล็กแค่นั้น แล้วดูปุ่มหลอกสิ อันใหญ่และเด่นกว่ากันตั้งเยอะ

จริงๆมุขใช้ interface window มาทำให้คนเข้าใจว่ามันเป็นการเตือนจากระบบ OS
มันก็มีมานานแล้ว และชอบทำให้มันเนียนๆ หลอกให้กด
คราวนี้ เราก็เสียทีมันอีกรอบ


Floating Ad อันหนึ่งในเว็บ kapook.com
(แม้กระทั่งชื่อธุรกิจ ยังสะกดผิด จาก Ad เป็น As เลย
เป็นแบนเนอร์ที่ไร้ QA มากๆ)


Floating Ad ของ Global Ad ในเว็บกระปุก
(ปรับปรุงขึ้นมาอีกหน่อย เห็นปุ่มปิดของจริงชัดขึ้นอีกนิด)

นักโฆษณาที่ยังเข้าข้าง trick ประเภทนี้อยู่
อาจจะมองเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
คลิกผิดก็ปิดไป ไม่เห็นมีอะไร

แต่อย่างที่บอก คนเรามีเวลาจำกัด
และบางคน เวลามีค่าเกินกว่าต้องมานั่งมอง ad ที่ไม่อยากดู
ต้องมานั่งหาปุ่มปิดเพราะมันถูกซ่อนหรือหลอกเอาไว้
แล้วยังต้องมานั่งรอหน้าเว็บที่บังเอิญคลิกผิด แล้วต้องรอปิดมันอีก
ซึ่งโอเค มันก็คงมีคนมีเวลาว่างจัด หรือมองโลกในแง่ดีจัด
พอกดปิดปั๊บ อุ้ย กดผิด ว้าวโดนหลอก น่าสนุกจัง
อะไรเด้งออกมา อ๊ะ ขายของอะไร โดนหลอกสนุกๆอย่างนี้ ขอดูนิดนึง
ซึ่งเอาตามปรกติแล้ว มันก็ไม่น่าจะมีคนแบบนี้มากนัก
และถ้าคุณมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนว่างจัด หรือเล่นเว็บเป็นเรื่องสนุก

โลกนี้เต็มไปด้วยการขาย ที่ไม่แคร์คนที่ไม่สนใจ
และคิดว่า คนที่สนใจ อย่างไรก็สนใจโฆษณาเขาอยู่ดี
และเขาจะแคร์กับลูกค้า และว่าที่ลูกค้าของเขาเท่านั้น

 

ถ้าไม่พูดในแง่ศีลธรรม จรรยาบรรณเลย
ถ้าเอาในแง่ธุรกิจล้วนๆ
ในกรณีที่คุณหวังที่จะทำธุรกิจแบบยั่งยืน เป็นที่รู้จักกว้างขวาง
ลูกค้ารักในสินค้าและบริการของคุณ

แล้วพอเริ่มต้น คุณก็หลอกว่าที่ลูกค้าของคุณอย่างนี้แล้ว
คุณคิดว่า จะมีสักกี่คน ที่โดนคุณหลอกแล้วยังจะประทับใจคุณอยู่
ยิ่งคุณเป็นโนเนม ต้องการสร้างชื่อเสียง
โดยที่คุณบังคับให้คนอื่นมารู้จักคุณ
คุณบังคับให้คนอื่นเสียเวลาให้กับคุณก่อนที่คุณจะให้อะไรกับเขา
คุณว่าใครอยากจะเป็นลูกค้าของคุณกัน

ในขณะที่การแข่งขันในตลาดสูงอย่างนี้
จริงอยู่ การทำให้คนๆหนึ่งมาสนใจในสินค้าและบริการของคุณ
มันเป็นเรื่องยาก
และเพราะทางเลือกเขามากมายนั่นแหละ
การบีบคอ หลอกลวง ให้เขาต้องมาเสียเวลาให้คุณ
ถึงไม่ใช่วิธีที่คุณจะได้ลูกค้ามาเป็นของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ได้โปรดทำโฆษณาที่ผู้ใช้จะยินดีเข้าไปรู้จักกับคุณเอง
มันไม่ยากและไม่แพงเกินการชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบรนด์ของคุณ
จากโฆษณาที่เล่นตลกกับผู้ใช้อย่างนี้หรอก

(ป.ล. ไม่ได้ตั้งใจจะโจมตี Global Ad เป็นการส่วนตัว
แต่เห็นว่าเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำเสนอในที่นี้)